กำถั่ว
ซึ่งปัจจุบันมีนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัย จากเดิมที่นำเอาพวก เมล็ดถั่ว เมล็ดมะขาม หรือเมล็ดพืชอื่นๆที่มีลักษณะกลมๆ มาใช้เป็นองค์ประกอบในการเล่นเกม ก็มีการเปลี่ยนแปลง มาใช้เป็น “เม็ดลูกปัด” จนกระทั่งกลายมาเป็น “เม็ดกระดุม”ในปัจจุบัน
ในปัจจุบันก็ถือเป็นอีกเกมที่น่าสนใจ และเป็นที่นิยมชมชอบของนักพนันทั่วไปในคาสิโน และบนคาสิโนออนไลน์ อาจเป็นเพราะวิธีการเล่นที่ง่าย โอกาสชนะก็ง่าย แถมเกมการเล่นก็ไว ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน แต่อาจต้องอาศัยดวง การสังเกตุการ และการคาดคะเนเป็นหลักเพราะรูปแบบการเดิมพันของเกมกำถั่วคือ
- บนโต๊ะจะมีเจ้ามือหรือพนักงาน พร้อมเม็ดกระดุมวางไว้บนโต๊ะ
- จะเริ่มเล่นเกมโดยเจ้ามือหรือพนักงาน จะแยกเม็กระดุมออกจากกองกลาง โดยทำการใช้ถ้วยแบ่งแยกออกมา เพื่อให้ผู้วางเดิมพันเห็นภาพกระดุมและเริ่มคาดการ คาดคะเนว่าเม็ดกระดุมที่แยกออกมานั้นจะมีเท่าไหร่ และจะเหลือเท่าไหร่
- มีระยะเวลาประมาณ30วิในการให้ลงเดิมพัน เมื่อคาดการ คำนวณต่างๆจากการแบ่งเม็ดกระดุมเสร็จแล้ว ผู้เล่นต้องลงวางเดิมพัน โดยจะต้องวางเดิมพันว่า แถวสุดท้ายของเม็ดกระดุม จะเหลือเม็ดกระดุมกี่เม็ด แบ่งแยกออกเป็น 1, 2, 3 หรือ4เม็ด
- เจ้ามือหรือพนักงาน จะเริ่มทำการนับเม็ดกระดุม โดยแยกนับออกเป็นแถว แถวละ4เม็ด แยกไปเรื่อยๆจนเหลือแถวสุดท้าย เม็ดกระดุมเหลือเท่าไหร่ ผู้ที่วางเดิมพันในช่องเลขนั้นก็จะเป็นผู้ชนะและได้รับเงินเดิมพัน ซึ่งในเกมก็จะมีการใช้สีเป็นสัญลักษณ์แทนตัวเลขเพื่อให้ผู้เล่นดูได้ง่ายขึ้น
- เลข 1 = สีขาว
- เลข 2 = สีเขียว
- เลข 3 = สีเหลือง
- เลข 4 = สีแดง
เกมกำถั่วนั้น สามารถแบ่งออกการเดิมพันได้เป็น 3 แบบ คือ
- การเดิมพันแบบเลขเดี่ยวหรือการเดิมพันแบบเต็งเลข คือการเดิมพันเลขตัวเดียว ไม่เผื่อเลขอื่น มีตัวเลข 1 2 3 4
- การเดิมพันแบบเลขคู่หรือการเดิมพันแบบควบ คือการเดิมพันเลขชุดสองตัว มีทั้งหมด 6 ชุด คือ 1-2, 1-3, 1-4, 2-3, 2-3, 3-4
- การเดิมพันแบบเลขควบ 3 คือการเดิมพันเลขชุดสามตัว มีทั้งหมด 4 ชุด คือ 4-2-1, 4-3-1, 3-4-2, 3-2-1